12 ประเภทไฟล์ภาพที่นักออกแบบต้องรู้! ใช้ผิด งานพังแน่!

นักออกแบบกราฟิกต้องเจอกับไฟล์ภาพมากมาย แต่ละไฟล์มีข้อดี-ข้อเสีย และเหมาะกับงานที่แตกต่างกัน หากเลือกใช้ผิด อาจทำให้งานออกแบบเสียหาย เสียเวลา หรือได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการ วันนี้เรามาทำความเข้าใจไฟล์ภาพ 12 ชนิด ที่พบบ่อยที่สุด พร้อมวิธีใช้อย่างถูกต้อง!

1. JPEG (JPG) – ไฟล์ยอดนิยมสำหรับภาพถ่าย 

ข้อดี: ขนาดเล็ก คุณภาพดี รองรับสีมากถึง 16.7 ล้านสี
ข้อเสีย: บีบอัดข้อมูล ทำให้เสียรายละเอียด ไม่รองรับพื้นหลังโปร่งใส
เหมาะกับ: รูปภาพถ่าย ภาพบนเว็บ โพสต์โซเชียลมีเดีย

2. PNG – ไฟล์โปร่งใสคุณภาพสูง 

ข้อดี: รองรับพื้นหลังโปร่งใส ความละเอียดสูง ไม่มีการสูญเสียคุณภาพ
ข้อเสีย: ไฟล์ขนาดใหญ่กว่ารูปแบบ JPEG
เหมาะกับ: โลโก้ ไอคอน กราฟิกที่ต้องการพื้นหลังโปร่งใส

3. GIF – ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่ทุกคนรู้จัก 

ข้อดี: สนับสนุนภาพเคลื่อนไหว รองรับพื้นหลังโปร่งใส
ข้อเสีย: รองรับสีแค่ 256 สี ไม่เหมาะกับภาพที่ต้องการความละเอียดสูง
เหมาะกับ: มีม (Meme) ไอคอนเคลื่อนไหว แบนเนอร์โฆษณา

4. SVG – ไฟล์เวกเตอร์ที่ดีที่สุดสำหรับเว็บ

ข้อดี: ขยายขนาดได้ไม่สูญเสียคุณภาพ ขนาดไฟล์เล็ก
ข้อเสีย: ใช้ไม่ได้กับภาพถ่าย รองรับเฉพาะกราฟิกแบบเวกเตอร์
เหมาะกับ: โลโก้ ไอคอน อินโฟกราฟิก กราฟิกสำหรับเว็บ

5. EPS – ไฟล์มาตรฐานของงานพิมพ์ 

ข้อดี: เป็นไฟล์เวกเตอร์คุณภาพสูง สามารถแก้ไขได้ง่าย
ข้อเสีย: ใช้งานยากบนเว็บ ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทาง

เหมาะกับ: โลโก้ที่ต้องพิมพ์ งานออกแบบที่ต้องขยายขนาดได้

6. AI – ไฟล์เฉพาะของ Adobe Illustrator 

ข้อดี: แก้ไขได้ง่าย รองรับเลเยอร์ ขยายขนาดได้ไม่เสียคุณภาพ
ข้อเสีย: ต้องใช้ Adobe Illustrator เท่านั้น
เหมาะกับ: งานออกแบบโลโก้ กราฟิกเวกเตอร์ที่ซับซ้อน

7. PSD – ไฟล์ต้นฉบับของ Photoshop 

ข้อดี: รองรับเลเยอร์ สามารถแก้ไขได้ละเอียด
ข้อเสีย: ใช้ได้เฉพาะกับ Adobe Photoshop
เหมาะกับ: งานรีทัชภาพ งานออกแบบที่มีหลายเลเยอร์

8. PDF – ไฟล์เอกสารที่ใช้ได้ทั้งภาพและข้อความ 

ข้อดี: รองรับทั้งภาพและตัวอักษร ส่งงานพิมพ์ได้ง่าย
ข้อเสีย: แก้ไขยากหากไม่มีซอฟต์แวร์เฉพาะทาง
เหมาะกับ: เอกสารดิจิทัล งานออกแบบที่ต้องการส่งพิมพ์

9. TIFF (TIF) – ไฟล์ภาพคุณภาพสูงสุด 

ข้อดี: ไม่มีการบีบอัดข้อมูล รายละเอียดภาพคมชัดมาก
ข้อเสีย: ขนาดไฟล์ใหญ่มาก
เหมาะกับ: งานพิมพ์คุณภาพสูง การเก็บภาพต้นฉบับ

10. RAW – ไฟล์ภาพดิบจากกล้อง 

ข้อดี: เก็บรายละเอียดสีและแสงได้ดีที่สุด
ข้อเสีย: ต้องใช้โปรแกรมพิเศษในการเปิด
เหมาะกับ: ช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการปรับแต่งภาพ

11. WEBP – ไฟล์ประสิทธิภาพสูงจาก Google 

ข้อดี: คุณภาพสูงแต่ขนาดเล็กกว่ารูปแบบ JPEG
ข้อเสีย: ใช้งานได้บางโปรแกรมเท่านั้น

เหมาะกับ: ภาพสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องโหลดเร็ว

12. BMP – ไฟล์ภาพยุคเก่าที่ไม่ค่อยใช้แล้ว

ข้อดี: คุณภาพสูง ไม่บีบอัดข้อมูล
ข้อเสีย: ขนาดไฟล์ใหญ่มาก ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประหยัดพื้นที่
เหมาะกับ: งานที่ต้องการรายละเอียดสูงสุด (แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกที่ดีกว่า)

สรุป: เลือกใช้ไฟล์ให้ถูก งานออกแบบจะง่ายขึ้น!

  • ต้องการภาพที่ใช้ทั่วไป : เลือก JPEG, PNG
  • ต้องการไฟล์เวกเตอร์ : ใช้ SVG, AI, EPS
  • ต้องการไฟล์แก้ไขได้ : เลือก PSD, AI
  • ต้องการส่งงานพิมพ์ : ใช้ PDF, TIFF
  • ต้องการไฟล์โหลดเร็วบนเว็บ : ใช้ WEBP, SVG

เลือกให้ถูก งานออกแบบของคุณจะง่ายขึ้น ประหยัดเวลาขึ้น และได้คุณภาพสูงสุด

ค้นหาบทความ

โพสที่เกี่ยวข้อง